วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2568 นี้ เตรียมพบกับศึก ONE Fight Night 37 ที่สนามมวยเวทีลุมพินี กรุงเทพฯ ซึ่งมีคู่มวย MMA รุ่นฟลายเวตที่น่าสนใจระหว่าง ลิโต “Thunder Kid” อาดิวัง นักชกฟิลิปปินส์ชื่อดัง พบกับ มาวโร “Dinamita” มาสโตรมารินี นักสู้อาร์เจนตินาผู้มากด้วยพลังระเบิด คู่นี้มีความน่าสนใจตรงที่ทั้งสองคนกำลังเปิดตัวในรุ่นน้ำหนักใหม่หลังจากเจอความล้มเหลวในไฟต์ล่าสุด ซึ่งหมายความว่าพวกเขาต่างต้องการชัยชนะอย่างยิ่งเพื่อพิสูจน์ตัวเองและกลับมาสู่เส้นทางแห่งชัยชนะ วันนี้เราจะมาวิเคราะห์กันอย่างละเอียดว่าใครจะเป็นฝ่ายได้เปรียบและมีโอกาสชนะมากกว่ากัน
ลิโต “Thunder Kid” อาดิวัง – เด็กฟ้าแห่งฟิลิปปินส์ที่หิวชัยชนะ
ประวัติและพื้นฐาน
ลิโต อาดิวัง หรือที่รู้จักในนาม “Thunder Kid” (เด็กสายฟ้า) เป็นนักสู้ MMA ชาวฟิลิปปินส์อายุ 31 ปี ที่มีพื้นฐานด้านศิลปะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งมาก เขาเป็นอดีตแชมป์ Wu Shu แห่งชาติฟิลิปปินส์ถึง 2 สมัย และมีประสบการณ์ในวงการ MMA มากว่า 21 ไฟต์ โดยมีสถิติชนะ-แพ้อยู่ที่ 15 ชนะ 6 แพ้ ซึ่งที่น่าประทับใจคือมีถึง 12 ชัยชนะมาจากการจบคู่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพลังชกและทักษะการจบที่น่ากลัว
ลิโต อาดิวังเริ่มต้นเส้นทาง MMA อย่างจริงจังตั้งแต่ปี 2015 และเข้าสู่เวที ONE Championship ตั้งแต่ปี 2019 หลังจากผ่านการคัดเลือกจากรายการ Rich Franklin’s ONE Warrior Series ในช่วงแรกของอาชีพเขาสังกัดค่ายดัง Team Lakay แต่ปัจจุบันได้ย้ายมาฝึกซ้อมที่ SOMA Fight Club ในบาหลี อินโดนีเซีย เพื่อพัฒนาทักษะให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น
ผลงานล่าสุดและฟอร์มการชก
การชกไฟต์ล่าสุดของลิโตในปี 2025 กลับเป็นความผิดหวัง เมื่อเขาต้องแพ้คะแนนเอกฉันท์ให้กับ เคโตะ ยามากิตะ (Keito Yamakita) ที่งาน ONE Fight Night 28 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ นักสู้ชาวญี่ปุ่นใช้เกมกราปปลิ้งและเทคนิคการควบคุมบนพื้นที่เหนือกว่าทำให้ลิโตเล่นเกมไม่ออก จุดอ่อนด้านการต่อสู้บนพื้นของเขาถูกเปิดเผยออกมาอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้นลิโตมีฟอร์มที่ยอดเยี่ยมด้วยชัยชนะติดต่อกัน 3 ไฟต์ ในปี 2023 ถึงต้นปี 2024 หลังจากกลับมาฟื้นฟูฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขายังคงเป็นนักสู้ระดับท็อปที่มีคุณภาพสูง การที่เขาตัดสินใจย้ายขึ้นสู่รุ่น Flyweight (125 ปอนด์) จากเดิมที่ชกรุ่น Strawweight (115 ปอนด์) น่าจะช่วยให้เขาไม่ต้องทรมานกับการลดน้ำหนักมากเกินไป และสามารถแสดงศักยภาพได้เต็มที่
จุดแข็งและสไตล์การชก
ลิโต อาดิวังมีจุดแข็งหลายประการที่น่ากลัว:
- ความเร็วและความคล่องตัวสูง: เป็นหนึ่งในนักสู้ที่มีความเร็วในการเคลื่อนไหวและออกอาวุธที่รวดเร็วที่สุดในรุ่นน้ำหนักเล็ก ฟุตเวิร์คที่ดีทำให้เขาหลบหลีกและสร้างมุมการโจมตีได้อย่างยอดเยี่ยม
- พลังชกที่น่ากลัว: แม้จะมีขนาดตัวเล็ก แต่เขามีพลังชกที่สามารถทำน็อคคู่ต่อสู้ได้ มี 12 ใน 15 ชัยชนะมาจากการจบคู่
- ทักษะ Wushu ที่หลากหลาย: พื้นฐานด้านวูซูทำให้เขามีเทคนิคการต่อสู้ที่หลากหลาย ทั้งการเตะ การหมุดเข่า และการโจมตีในมุมต่างๆ
- ประสบการณ์ใน ONE Championship: มีประสบการณ์มากกว่า 6 ปีในเวทีระดับโลก ทำให้เขาเข้าใจบรรยากาศและระดับการแข่งขันได้ดี
- ความดุดันและการรุกไม่ถอย: เขาชอบเดินหน้ากดดันคู่ต่อสู้ด้วยความเร็วและความดุดัน สร้างแรงกดดันตลอดเวลา
จุดอ่อนที่ต้องระวัง
- เกมพื้น (Ground Game): จุดอ่อนที่เห็นได้ชัดจากไฟต์ล่าสุดคือทักษะการต่อสู้บนพื้นและการป้องกันเทคดาวน์ที่ยังไม่แข็งแกร่งพอ
- การควบคุมอารมณ์: บางครั้งลุกลามมากเกินไปจนเสียจังหวะการชกของตัวเอง ความดุดันอาจทำให้เปิดช่องโหว่ให้คู่ต่อสู้ตอบโต้
- การปรับตัวในรุ่นน้ำหนักใหม่: นี่จะเป็นไฟต์แรกในรุ่นฟลายเวต ต้องดูว่าเขาจะปรับตัวได้ดีแค่ไหนกับคู่ต่อสู้ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
มาวโร “Dinamita” มาสโตรมารินี – ระเบิดจากอาร์เจนตินา
ประวัติและพื้นฐาน
มาวโร มาสโตรมารินี เป็นนักสู้ MMA ชาวอาร์เจนตินาอายุ 32 ปี มาจากเมือง Lomas de Zamora ใกล้กับบัวโนสไอเรส มีฉายาว่า “Dinamita” (ระเบิด) ที่สะท้อนถึงสไตล์การชกที่ก้าวร้าวและระเบิดพลัง
ก่อนเข้าสู่ ONE Championship มาสโตรมารินีสร้างชื่อให้ตัวเองในวงการ MMA ของอเมริกาใต้อย่างน่าประทับใจด้วยสถิติ 17 ชนะ 4 แพ้ โดยมีถึง 14 ชัยชนะมาจากการจบคู่ (8 KO/TKO และ 6 Submission) แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นนักสู้ที่สามารถจบคู่ต่อสู้ได้ทั้งยืนและพื้น ความสามารถรอบด้านนี้ทำให้เขาได้รับโอกาสเข้าสู่เวทีระดับโลก
ประสบการณ์ใน ONE Championship
การเปิดตัวของมาสโตรมารินีใน ONE Championship กลับไม่เป็นไปตามที่หวัง เมื่อเขาต้องแพ้ TKO ในยกแรกให้กับ คาร์โล “The Bull” บูมินา-อัง (Carlo Bumina-ang) นักชกชาวฟิลิปปินส์ที่งาน ONE Fight Night 34 เมื่อเดือนมิถุนายน 2025 ความกดดันจากการลงสู้ในเวทีใหญ่ครั้งแรกอาจทำให้เขาเล่นเกมไม่ออก
หลังจากความพ่ายแพ้นั้น เขาตัดสินใจย้ายลงรุ่นฟลายเวตจากเดิมที่ชกรุ่นแบนตัมเวต เพื่อหาจุดที่เหมาะสมกับรูปร่างและสไตล์การชกของตัวเองมากกว่า และเพื่อเริ่มต้นใหม่ในการสร้างชื่อเสียงใน ONE Championship
จุดแข็งและทักษะพิเศษ
มาวโร มาสโตรมารินีมีจุดแข็งที่หลากหลาย:
- ทักษะการจบคู่ที่หลากหลาย: สามารถจบคู่ได้ทั้ง KO, TKO และ Submission ซึ่งทำให้คู่ต่อสู้ต้องระวังในทุกสถานการณ์ มี 14 ใน 17 ชัยชนะมาจากการจบคู่ (อัตรา 82%)
- เกมพื้นที่แข็งแกร่ง: มีทักษะ Brazilian Jiu-Jitsu ที่ดี สามารถทำซับมิชชั่นได้หลากหลายรูปแบบ มี 6 ชัยชนะจากการล็อค
- ประสบการณ์ในอเมริกาใต้: มี 21 ไฟต์จากวงการอเมริกาใต้ที่มีระดับการแข่งขันสูง ทำให้เขามีความแกร่งแข็งทางจิตใจและความอดทน
- ความหิวกระหาย: หลังจากแพ้ไฟต์เปิดตัว เขามีแรงจูงใจสูงมากที่จะพิสูจน์ตัวเองว่าสามารถประสบความสำเร็จใน ONE ได้
จุดอ่อนที่น่าวิตก
- ประสบการณ์ใน ONE Championship ยังน้อย: เพิ่งแพ้ไฟต์เปิดตัวอย่างหนัก ยังขาดความคุ้นเคยกับระดับและสไตล์การชกในเวที ONE
- การแพ้ TKO ในยกแรก: การถูกจบไวทำให้เห็นว่าเขาอาจมีปัญหาด้านการรับมือกับความกดดันหรือคู่ต่อสู้ที่มีความเร็วสูง
- การปรับตัวในรุ่นน้ำหนักใหม่: การลงชนรุ่นฟลายเวตครั้งแรก ยังไม่ทราบว่าเขาจะปรับตัวได้ดีแค่ไหน โดยเฉพาะการลดน้ำหนักอาจส่งผลต่อความแข็งแรง
- ความเร็วและฟุตเวิร์ค: เมื่อเทียบกับนักชกที่มีพื้นฐาน Wushu อย่างลิโต เขาอาจด้อยกว่าเรื่องความเร็วในการเคลื่อนไหว
การเปรียบเทียบแบบตัวต่อตัว
ตารางเปรียบเทียบสถิติ
| หัวข้อ | ลิโต อาดิวัง | มาวโร มาสโตรมารินี |
| สถิติชนะ-แพ้ | 15-6 | 17-4 (ก่อน ONE) + 0-1 (ONE) = 17-5 รวม |
| อัตราการจบคู่ | 12/15 (80%) | 14/17 (82%) |
| ประสบการณ์ ONE | มากกว่า 6 ปี | เพิ่งเปิดตัว (1 ไฟต์) |
| รุ่นน้ำหนัก | เปิดตัวรุ่นฟลายเวต | เปิดตัวรุ่นฟลายเวต |
| ไฟต์ล่าสุด | แพ้ 1 ใน 4 ไฟต์ล่าสุด | แพ้ไฟต์เปิดตัว ONE |
| ส่วนสูง | 162 ซม. | ประมาณ 170 ซม. |
การวิเคราะห์การจับคู่
ด้านการชกยืน (Striking)
นี่คือจุดที่ลิโต อาดิวังน่าจะได้เปรียบอย่างชัดเจน ความเร็วและเทคนิคที่หลากหลายจากพื้นฐาน Wushu ทำให้เขาสามารถสร้างมุมการโจมตีที่หลากหลายและควบคุมระยะได้ดี ส่วนมาวโร มาสโตรมารินีแม้จะมีพลังชก แต่ความเร็วและฟุตเวิร์คอาจไม่ทันลิโต หากการต่อสู้เป็นไปในแบบยืนแลกหมัด ลิโตน่าจะมีโอกาสเก็บคะแนนหรือแม้กระทั่งจบด้วย TKO ได้
ด้านเกมพื้น (Grappling)
ในด้านนี้ มาวโร มาสโตรมารินีได้เปรียบอย่างชัดเจน เขามีทักษะซับมิชชั่นที่หลากหลายด้วย 6 ชัยชนะจากการล็อค ในขณะที่ลิโตเพิ่งแสดงให้เห็นจุดอ่อนด้านนี้ชัดเจนในไฟต์กับยามากิตะ หากมาวโรสามารถเทคดาวน์ลิโตลงพื้นได้สำเร็จ เขามีโอกาสสูงที่จะจบด้วยซับมิชชั่น
ด้านสภาพกายภาพ
ทั้งสองคนต่างอยู่ในช่วงเปิดตัวรุ่นน้ำหนักใหม่ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ลิโตย้ายขึ้นมา ซึ่งควรจะทำให้เขาแข็งแรงขึ้นและไม่ต้องลดน้ำหนักหนัก ส่วนมาวโรลงมา อาจจะเหนื่อยกว่าและต้องระมัดระวังเรื่องความแข็งแรง
ด้านจิตวิทยา
ปัจจัยด้านจิตใจเป็นสิ่งสำคัญมากในไฟต์นี้ ทั้งสองคนต่างต้องการชัยชนะหลังความพ่ายแพ้ล่าสุดอย่างยิ่ง ลิโตมีประสบการณ์การกลับมาฟื้นฟูฟอร์มมาแล้วและรู้วิธีจัดการกับแรงกดดัน ในขณะที่มาวโรยังต้องพิสูจน์ว่าเขาสามารถรับมือกับความกดดันในเวทีใหญ่ได้
จุดสำคัญที่จะตัดสินผลการแข่งขัน
สถานการณ์ที่ต่างฝ่ายจะชนะ
สถานการณ์ที่ 1: ลิโตควบคุมการชกยืนได้
หากลิโตสามารถใช้ความเร็วและฟุตเวิร์คที่ดีในการควบคุมระยะ หลบหลีกการเทคดาวน์ของมาวโร และค่อยๆ สร้างแดเมจด้วยการชกและเตะที่หลากหลาย โอกาสชนะของเขาจะสูงมาก คาดว่าจะชนะด้วยคะแนนเอกฉันท์หรือ TKO ในยกสองหรือสาม
สถานการณ์ที่ 2: มาวโรพาการต่อสู้ลงพื้นได้สำเร็จ
หากนักชกอาร์เจนตินาสามารถหาจังหวะเทคดาวน์ลิโตลงพื้นได้ โดยเฉพาะในยกแรก และควบคุมตำแหน่งบนพื้นได้ดี โอกาสที่เขาจะจบด้วยซับมิชชั่นหรือ Ground and Pound จะสูงมาก
สถานการณ์ที่ 3: การชกที่สับสนวุ่นวาย
หากการชกเป็นไปอย่างดุเดือดและสับสนวุ่นวาย ทั้งสองคนต่างมีโอกาสสร้างเซอร์ไพรส์ได้ แต่ด้วยประสบการณ์และความเย็นชาของลิโต เขาน่าจะจัดการกับสถานการณ์ได้ดีกว่า
ปัจจัยที่ต้องจับตา
- การปรับตัวในรุ่นน้ำหนักใหม่: ทั้งสองคนต่างเปิดตัวรุ่นฟลายเวต การปรับตัวที่ดีกว่าจะได้เปรียบ
- เกมเทคดาวน์: หากลิโตสามารถป้องกันเทคดาวน์ได้ดี โอกาสชนะของเขาจะเพิ่มขึ้นมาก
- สไตล์การชก: ใครบังคับให้การต่อสู้เป็นไปตามสไตล์ของตนได้ คนนั้นจะชนะ
- การคุมอารมณ์: การควบคุมอารมณ์และการทำตามแผนการชกจะเป็นกุญแจสำคัญ
การคาดการณ์ผลและทีเด็ดเดิมพัน
จากการวิเคราะห์ทั้งหมด ผมเห็นว่า ลิโต อาดิวัง มีโอกาสชนะมากกว่าเล็กน้อย ด้วยเหตุผลดังนี้:
- ประสบการณ์ระดับโลกที่มากกว่า: การชกใน ONE มากว่า 6 ปีทำให้เขาคุ้นเคยกับระดับและสไตล์
- ความเร็วและเทคนิค: ในรุ่นฟลายเวตที่น้ำหนักเท่ากัน ความเร็วและทักษะของเขาจะโดดเด่นกว่า
- การจัดการเกมพื้น: แม้จะด้อยกว่า แต่ลิโตสามารถหลีกเลี่ยงและลุกขึ้นจากการเทคดาวน์ได้ดีเมื่อเทียบกับนักชกระดับอเมริกาใต้
การคาดการณ์: ลิโต อาดิวัง ชนะด้วยคะแนนเอกฉันท์ หรือ TKO ในยกที่ 3
โอกาสชนะประมาณ: 60:40 ให้กับลิโต
อย่างไรก็ตาม อย่าประมาทมาวโร มาสโตรมารินี เขามีทักษะการจบคู่ที่อันตราย และหากเขาสามารถพาการต่อสู้ลงพื้นได้สำเร็จ โอกาสสร้างเซอร์ไพรส์ก็มีสูงเช่นกัน
ตัวเลือกการเดิมพันที่น่าสนใจ
สำหรับพี่น้องที่สนใจเดิมพัน นี่คือตัวเลือกที่ผมแนะนำ:
ตัวเต็ง: ลิโต อาดิวัง – เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาความมั่นคงและมีสถิติรองรับ
ตัวรอง: มาวโร มาสโตรมารินี – ตัวเลือกสำหรับผู้ที่ชอบความเสี่ยงสูง หากเขาใช้จุดแข็งด้านกราวด์เกมได้ ราคาต่อรองน่าสนใจ
ตัวเลือกพิเศษที่น่าสนใจ: – Fight to go the distance (NO): ด้วยอัตราการจบคู่ที่สูงของทั้งสองฝ่ายมากกว่า 80% โอกาสที่การชกจะจบก่อนหมดเวลาค่อนข้างสูง – Method of Victory – Submission: หากมาสโตรมารินีชนะ โอกาสที่จะชนะด้วยซับมิชชั่นสูง – Method of Victory – Decision: หากลิโตควบคุมการชกได้ตลอด โอกาสชนะคะแนนมีสูง – Round Betting – Round 2 หรือ 3: หากมีการจบคู่ มักจะเกิดขึ้นในยกกลางหรือยกสาม
สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมและราคาต่อรองล่าสุดได้ที่ พักยก24 ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลที่อัปเดตอย่างสม่ำเสมอ
ข้อมูลเกี่ยวกับงาน ONE Fight Night 37
รายละเอียดการจัดงาน
วันที่: วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2568 สถานที่: สนามมวยเวทีลุมพินี กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย การถ่ายทอดสด: Prime Video (สำหรับสหรัฐอเมริกาและแคนาดา) เวลา 21:00 น. ET / 18:00 น. PT (วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายนตามเวลาสหรัฐฯ)
คู่เอก (Main Event)
Roman Kryklia vs Samet Agdeve ศึกชิงแชมป์โลก ONE Heavyweight Kickboxing ครั้งแรก
นี่เป็นการชกที่น่าตื่นเต้นมาก Roman Kryklia แชมป์โลกสองแชมป์ปัจจุบัน (ONE Heavyweight Muay Thai และ Light Heavyweight Kickboxing) ที่มีสถิติ 51-7 และสูงถึง 6 ฟุต 7 นิ้ว จะพบกับ Samet Agdeve นักชกตุรกีรุ่นเยาว์อายุ 21 ปี ที่มีสถิติไร้พ่ายแพ้ 17-0 พร้อมน็อค 12 ครั้งเพื่อชิงเข็มขัดแชมป์โลกใหม่
คู่รองที่น่าสนใจอื่นๆ
นอกจากคู่ลิโตและมาวโรแล้ว ยังมีคู่รองที่น่าติดตามอีกหลายคู่ในศึก ONE Fight Night 37 นี้ ถือเป็นค่ำคืนแห่งการต่อสู้ที่คุ้มค่าแก่การรับชมและเดิมพันอย่างแน่นอน
เคล็ดลับและคำแนะนำสำหรับนักเดิมพัน
ข้อควรรู้ก่อนลงเดิมพัน
- ศึกษาสถิติและฟอร์มล่าสุดของนักชก: ดูผลงานล่าสุด จุดแข็ง จุดอ่อน เพื่อทำความเข้าใจ
- การปรับตัวในรุ่นน้ำหนักใหม่: ทั้งสองคนเปิดตัวรุ่นฟลายเวต ปัจจัยนี้สำคัญมาก
- สไตล์การชก: พิจารณาว่าสไตล์ของใครเหมาะกับอีกฝ่ายมากกว่า
- อัตราการจบคู่สูง: ทั้งคู่มีอัตราการจบคู่มากกว่า 80% หมายความว่าโอกาสเห็นน็อคหรือซับมิชชั่นสูง
ตัวเลือกการเดิมพันที่หลากหลาย
ประเภทหลัก: – เดิมพันผู้ชนะตรง (ลิโตหรือมาวโร) – เดิมพันว่าจะจบคู่ก่อนหมดเวลาหรือไม่ – การชนะในรูปแบบใด (KO/TKO, Submission, Decision)
ประเภทพิเศษ: – ราคาต่อรองในแต่ละยก (Over/Under Rounds) – การเดิมพันพิเศษ (Method of Victory, Round Betting) ให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจ – Over/Under Rounds เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเนื่องจากอัตราการจบคู่สูง
สรุปและคำแนะนำสุดท้าย
การดวลระหว่าง ลิโต “Thunder Kid” อาดิวัง และ มาวโร “Dinamita” มาสโตรมารินี ในศึก ONE Fight Night 37 นี้เป็นคู่ที่น่าติดตามอย่างมาก เป็นการดวลระหว่างนักสู้สองคนที่ต่างมีจุดแข็งเฉพาะตัวและต่างหิวกระหายชัยชนะหลังความพ่ายแพ้ล่าสุด
ลิโตมีข้อได้เปรียบด้านประสบการณ์ระดับโลกและความเร็วที่เหนือกว่า ในขณะที่มาวโรมีทักษะการจบคู่ที่หลากหลายและอันตราย การชกนี้จะเป็นไปในทิศทางใดขึ้นอยู่กับว่าใครสามารถบังคับให้การต่อสู้เป็นไปตามสไตล์ของตนได้สำเร็จ
ผมคาดว่าลิโตมีโอกาสชนะมากกว่าเล็กน้อยด้วยคะแนนเอกฉันท์หรือ TKO ในยกที่ 3 แต่หากมาวโรสามารถพาการต่อสู้ลงพื้นได้สำเร็จ เขาก็มีโอกาสสร้างเซอร์ไพรส์ได้เช่นกัน
พร้อมลงเดิมพันแล้วหรือยัง?
สำหรับพี่น้องที่สนใจลงเดิมพันในศึก ONE Fight Night 37 และการชกคู่อื่นๆ ที่น่าสนใจ เชิญสมัครสมาชิกและเริ่มต้นการเดิมพันได้ที่ ลงทะเบียนเดิมพันมวยออนไลน์ที่นี่ วันนี้เพื่อรับโบนัสพิเศษและตัวเลือกการเดิมพันที่หลากหลาย
ไม่ว่าจะเลือกเชียร์ฝ่ายใด อย่าลืมเดิมพันอย่างมีสติ วิเคราะห์อย่างรอบคอบ และเพลิดเพลินกับการชกที่น่าตื่นเต้นนี้ ขอให้โชคดีกับการเดิมพันของทุกท่านครับ
อย่าพลาดคู่นี้ วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2568 นี้!