คืนวันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2568 เตรียมพบกับศึกมวยสุดมันส์ที่สนามมวยลุมพินี กรุงเทพฯ ในศึก ONE Fight Night 37 ที่จะมีคู่เดือดระหว่าง จิลเบิร์ต “Dynamite” นาคาทานี นักสู้ชาวอเมริกัน ปะทะ เอโก โรนี ซาปูตรา นักสู้ชาวอินโดนีเซีย ในรุ่นฟลายเวท MMA คู่นี้ไม่ใช่แค่การชกธรรมดา แต่เป็นศึกแย่งตั๋วเข้าสู่กลุ่มท็อป 5 ของดิวิชั่น ทั้งสองนักสู้ต่างอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องการชัยชนะอย่างยิ่ง หลังจากพลาดโอกาสมาหลายนัด วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูทีเด็ดมวยคู่นี้กันแบบละเอียด รับรองว่าจะช่วยให้คุณมีข้อมูลครบถ้วนก่อนลงทุนแทงมวย!
จิลเบิร์ต นาคาทานี: นักสู้อเมริกันผู้หิวชัยชนะ
ประวัติและผลงานการชก
จิลเบิร์ต “Dynamite” นาคาทานี เป็นนักสู้ MMA ชาวอเมริกันวัย 31 ปี ฝึกซ้อมที่ค่าย Aragon Training Academy นาคาทานีเริ่มต้นอาชีพมืออาชีพในปี 2019 และสร้างชื่อให้ตัวเองด้วยสถิติ 8-1 ก่อนที่จะเข้าสู่กองทัพ ONE Championship ด้วยชุดสี่ชัยชนะติดต่อกัน รวมถึงการเอาชนะนักสู้ที่ยังไม่เคยแพ้สองคนติดต่อกัน
การเปิดตัวของนาคาทานีใน ONE Championship เกิดขึ้นที่ ONE Fight Night 26 เมื่อเดือนธันวาคม 2567 โดยเขาพบกับ ยูยะ “Little Piranha” วากามัตสึ นักสู้อันดับ 2 ของดิวิชั่น แม้จะแพ้ด้วยคะแนนเอกฉันท์ แต่นาคาทานีก็ทำให้แฟนๆ ประทับใจด้วยความทนทานและทักษะการชกที่ไม่ธรรมดา การชกครบ 3 ยกกับผู้ที่ต่อมากลายเป็นแชมป์โลกนั้นถือเป็นประสบการณ์อันมีค่า
นัดต่อมาที่ ONE Fight Night 28 ในเดือนมกราคม 2568 นาคาทานีได้เจอกับ เจเรมี “The Jaguar” มิอาโด นักชกฟิลิปปินส์ที่ย้ายมาลงรุ่นฟลายเวทครั้งแรก แต่เกมของมิอาโดในรุ่นใหม่นั้นยอดเยี่ยมเกินไป ทำให้นาคาทานีพ่ายแพ้ด้วยคะแนนเอกฉันท์อีกครั้ง ตอนนี้สถิติของเขาใน ONE Championship อยู่ที่ 0-2 และสถิติโดยรวมคือ 8-3 ซึ่งแน่นอนว่าเขาต้องการชัยชนะครั้งแรกอย่างมาก
สไตล์การชกและจุดแข็ง
สไตล์การชกของนาคาทานีเป็นแบบออลราวนด์ไฟต์เตอร์ที่มีความสมบูรณ์แบบ จุดเด่นหลักๆ ของเขาคือ:
- พลังหมัดที่ทรงพลัง: นาคาทานีมีฉายาว่า “Dynamite” ไม่ใช่ฟรีๆ เขามีพลังระเบิดในมือทั้งสองข้างที่สามารถเปลี่ยนเกมได้ทันที การต่อยของเขาแม่นยำและมีน้ำหนักมาก
- ทักษะการเทคดาวน์: นาคาทานีเป็นนักเทคดาวน์ที่เก่งมาก สามารถควบคุมจังหวะการชกและพาคู่ต่อสู้ลงพื้นได้เมื่อต้องการ
- สแตมินาและความทนทาน: จากการชกครบ 3 ยกในทั้งสองนัด ONE แสดงให้เห็นว่าเขามีสแตมินาและความทนทานดีมาก
- การคอมโบของการชก: นาคาทานีชอบใช้คอมโบที่หลากหลาย ทั้งหมัด เตะ และเข่า ทำให้คู่ต่อสู้คาดเดายาก
จุดอ่อนที่ควรระวัง
แม้จะมีความสามารถดี แต่นาคาทานีก็มีจุดอ่อนบางประการ:
- การป้องกันการเทคดาวน์: หากเจอคู่ต่อสู้ที่เก่งเกมกราวด์ เขาอาจมีปัญหา
- ประสบการณ์ในเวทีใหญ่: การแพ้สองนัดติดอาจส่งผลต่อความมั่นใจ
- แรงกดดัน: ความจำเป็นที่ต้องชนะทำให้เขาอาจเล่นเกมได้ไม่เต็มที่
เอโก โรนี ซาปูตรา: นักสู้อินโดนีเซียผู้ตกอับ
ประวัติและผลงานการชก
เอโก โรนี ซาปูตรา เกิดเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2534 เป็นนักสู้ MMA ชาวอินโดนีเซียวัย 34 ปี มีพื้นฐานมาจากกีฬามวยปล้ำฟรีสไตล์ระดับซีเกมส์ โดยเคยคว้าเหรียญทองแดงในปี 2009 และเหรียญเงินในปี 2013 หลังจากประสบความสำเร็จในวงการมวยปล้ำ ซาปูตราได้เปลี่ยนมาสู่ MMA และฝึกซ้อมที่ค่าย Evolve MMA ในสингคโปร์
การเริ่มต้นอาชีพ MMA ของซาปูตราไม่ได้ราบรื่นนัก เมื่อเปิดตัวใน ONE Championship เขาแพ้ด้วย Doctor Stoppage ในยกแรกให้กับ Niko Soe แต่หลังจากนั้นเขากลับมาอย่างน่าประทับใจด้วยชัยชนะ 7 นัดติดต่อกันที่จบในยกแรกทั้งหมด! ช่วงเวลานั้นซาปูตรากลายเป็นดาวรุ่งที่ทุกคนจับตามอง
แต่โชคชะตากลับพลิกผัน เมื่อในปี 2566 ซาปูตราได้พบกับ แดนนี่ “The King” คิงกัด นักสู้ฟิลิปปินส์ผู้มีประสบการณ์สูง ที่ ONE Fight Night 7 และแพ้ด้วยคะแนนเสียงข้างมากในศึกที่ต่อสู้กันอย่างดุเดือด หลังจากนั้นเขาได้เจอกับ หู หย่ง ที่ ONE Fight Night 15 และถูกน็อกในยกแรก และล่าสุดเขาแพ้ ซานซาร์ “Tornado” ซาคีรอฟ ด้วยการถูกน็อกด้วยการกราวด์แอนด์ปาวนด์ในยก 2 ที่ ONE Fight Night 29 เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2568
ตอนนี้สถิติของซาปูตราอยู่ที่ 7-4 โดยแพ้ติดต่อกัน 3 นัด นี่คือช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในอาชีพของเขา
สไตล์การชกและจุดแข็ง
ซาปูตรามีสไตล์การชกที่เน้นกราวด์เกมและซับมิชชั่น:
- ทักษะกราวด์เกมระดับสูง: ด้วยพื้นฐานมวยปล้ำซีเกมส์ ซาปูตรามีทักษะการควบคุมคู่ต่อสู้บนพื้นที่ยอดเยี่ยม
- ซับมิชชั่นที่อันตราย: เขาเคยจบการชกด้วย Heel Hook กับ Yodkaikaew Fairtex ที่ ONE 162 และได้รับรางวัล Performance of the Night ซาปูตรามีซับมิชชั่นที่หลากหลาย ทั้ง Rear-Naked Choke, Keylock และอื่นๆ
- การควบคุมตำแหน่ง: เขาชอบใช้เวลาบนพื้นเพื่อสร้างตำแหน่งที่เหนือกว่า
- ความเร็วในการจบ: จาก 7 ชัยชนะติดต่อกัน ทั้งหมดจบในยกแรก รวมถึงการน็อก Liu Peng Shuai ด้วยหมัดเพียง 10 วินาที แสดงว่าเขามีพลังทำลายล้างได้เช่นกัน
จุดอ่อนที่ควรระวัง
- ฟอร์มตกต่ำ: การแพ้ 3 นัดติดต่อกันส่งผลต่อความมั่นใจและจิตใจอย่างแน่นอน
- การชกยืน: เมื่อเจอนักสู้ที่มีการชกยืนดี ซาปูตรามักจะเสียเปรียบ
- อายุและสภาพร่างกาย: ซาปูตราอายุ 34 ปี หลังจากแพ้ 3 นัดที่มีการถูกทำร้ายร่างกาย เขาอาจไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด
- การป้องกันการถูกกราวด์แอนด์ปาวนด์: การแพ้ล่าสุดด้วยวิธีนี้แสดงว่าเขามีปัญหาในการป้องกันเมื่ออยู่ในตำแหน่งเสียเปรียบ
การเปรียบเทียบนักสู้ทั้งสองคน
สถิติการชกและข้อมูล
| ข้อมูล | จิลเบิร์ต นาคาทานี | เอโก โรนี ซาปูตรา |
| อายุ | 31 ปี | 34 ปี |
| สถิติโดยรวม | 8-3 | 7-4 |
| สถิติใน ONE | 0-2 | 7-4 |
| ฟอร์มล่าสุด | แพ้ 2 นัด | แพ้ 3 นัด |
| ความจำเป็นชนะ | สูงมาก | สูงมาก |
จากตารางเปรียบเทียบจะเห็นได้ว่า ทั้งสองคนอยู่ในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน คือต้องการชัยชนะอย่างยิ่ง แต่ซาปูตรามีประสบการณ์และผลงานใน ONE Championship มากกว่า ส่วนนาคาทานีมีข้อได้เปรียบด้านอายุที่น้อยกว่า
การเปรียบเทียบทักษะ
การชกยืน (Striking): – นาคาทานีมีข้อได้เปรียบที่ชัดเจนในด้านนี้ – เขามีพลังหมัดและความเร็วที่ดีกว่า – คอมโบและการเคลื่อนไหวก็หลากหลายกว่า
การมวยปล้ำและกราวด์เกม (Wrestling & Grappling): – ซาปูตรามีทักษะที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน – พื้นฐานมวยปล้ำซีเกมส์ทำให้เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ – นาคาทานีมีการเทคดาวน์ที่ดี แต่อาจยังไม่เพียงพอต่อการต่อสู้กับซาปูตราบนพื้น
สแตมินาและความทนทาน: – นาคาทานีอายุน้อยกว่าและมีสแตมินาที่ดีกว่า – ซาปูตรามีความทนทานได้ แต่หลังจากถูกทำร้ายในการชก 3 นัดล่าสุด สภาพร่างกายอาจไม่ได้ดีที่สุด
การวิเคราะห์แผนเกมและกลยุทธ์
แผนเกมของจิลเบิร์ต นาคาทานี
นาคาทานีควรจะเก็บเกมไว้ที่การชกยืนให้มากที่สุด โดย:
- ใช้ประโยชน์จากพลังหมัด: พยายามแลกหมัดและทำคะแนนในการชกยืน หลีกเลี่ยงการถูกพาลงพื้น
- ควบคุมจังหวะการชก: ใช้การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและการเปลี่ยนระยะเพื่อไม่ให้ซาปูตราหาโอกาสคลินช์
- ป้องกันการเทคดาวน์: นี่คือสิ่งสำคัญที่สุด หากถูกพาลงพื้น โอกาสชนะจะลดลงอย่างมาก
- สร้างความเสียหายสะสม: ใช้การต่อยและเตะอย่างต่อเนื่องเพื่อทำคะแนนและทำให้ซาปูตราเหนื่อย
แผนเกมของเอโก โรนี ซาปูตรา
ซาปูตราควรจะพยายามพาเกมลงพื้นให้เร็วที่สุด โดย:
- คลินช์และเทคดาวน์: ใช้โอกาสทุกครั้งในการเข้าคลินช์และพยายามพาลงพื้น
- ควบคุมตำแหน่งบนพื้น: เมื่อได้เปรียบบนพื้นแล้ว ต้องใช้เวลาในการสร้างตำแหน่งที่ดี
- หาซับมิชชั่น: ใช้ทักษะซับมิชชั่นที่หลากหลายเพื่อจบการชก นี่คือจุดแข็งที่สุดของเขา
- ลดความเสี่ยงในการชกยืน: หลีกเลี่ยงการแลกหมัดกับนาคาทานีให้มากที่สุด
การคาดการณ์ผลการชก
ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการชก
1. การควบคุมว่าเกมจะเป็นการชกยืนหรือกราวด์
นี่คือปัจจัยที่สำคัญที่สุด ถ้านาคาทานีสามารถเก็บเกมไว้ที่การชกยืนได้ เขามีโอกาสชนะสูง แต่ถ้าซาปูตราพาเกมลงพื้นได้ เกมจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
2. สภาพจิตใจและแรงกดดัน
ทั้งสองคนแพ้หลายนัดติด ซึ่งแน่นอนว่าจะมีแรงกดดันสูง นาคาทานีต้องการชัยชนะแรกใน ONE อย่างมาก ส่วนซาปูตราต้องการหยุดสตรีคการแพ้ 3 นัด ใครที่จัดการกับแรงกดดันได้ดีกว่าจะมีโอกาสชนะมากกว่า
3. ความกระหายชัยชนะ
พักยก24 มีรายงานว่า ทั้งสองนักสู้ต่างมีความตั้งใจและกระหายชัยชนะอย่างมาก นาคาทานีต้องการพิสูจน์ว่าเขาสมควรอยู่ใน ONE Championship ส่วนซาปูตราต้องการกลับมาสู่เส้นทางแชมป์ ความต้องการนี้อาจทำให้การชกเดือดดาลและน่าตื่นเต้นมาก
4. การปรับตัวในระหว่างการชก
หากแผนเกมเริ่มต้นไม่ได้ผลตามที่คาด ใครที่สามารถปรับเกมได้เร็วกว่าจะได้เปรียบ นาคาทานีต้องพร้อมรับมือกับการถูกพาลงพื้น ส่วนซาปูตราต้องพร้อมรับมือกับการถูกต่อยอย่างหนัก
ทีเด็ดมวยและคาดการณ์ผลการชก
หลังจากวิเคราะห์ทุกมิติแล้ว นี่คือการคาดการณ์ของเรา:
โอกาสชนะ: – นาคาทานีชนะ อยู่ที่ประมาณ 50-55% – ซาปูตราชนะ อยู่ที่ประมาณ 45-50%
สถานการณ์ที่เป็นไปได้:
สถานการณ์ที่ 1: นาคาทานีชนะด้วยคะแนน (โอกาส 35%)
หากนาคาทานีสามารถป้องกันการเทคดาวน์และเก็บเกมไว้ที่การชกยืนได้ เขามีโอกาสสูงที่จะชนะด้วยคะแนนเอกฉันท์ โดยการใช้พลังหมัดและการควบคุมจังหวะการชกที่ดีกว่า ความจำเป็นที่ต้องชนะจะทำให้เขาออกมาอย่างจริงจังตั้งแต่ยกแรก
สถานการณ์ที่ 2: ซาปูตราชนะด้วยซับมิชชั่น (โอกาส 30%)
หากซาปูตราสามารถพาเกมลงพื้นได้สำเร็จในยก 2 หรือ 3 เขามีโอกาสสูงที่จะจบการชกด้วยซับมิชชั่น ทักษะกราวด์เกมของเขาเหนือกว่านาคาทานีอย่างชัดเจน และหากได้ตำแหน่งที่ดีบนพื้น การชกอาจจบได้ทันที
สถานการณ์ที่ 3: การชกจบครบ 3 ยก (โอกาส 25%)
ทั้งสองคนมีความทนทานดีและเคยชกครบเวลามาแล้ว ถ้าเกมเป็นไปอย่างสมดุล โดยแต่ละคนได้เปรียบในบางยก การชกอาจจบด้วยคะแนนแบบชนิดกัน นี่จะเป็นสถานการณ์ที่น่าตื่นเต้นที่สุด
สถานการณ์ที่ 4: การจบด้วยน็อก/TKO (โอกาส 10%)
แม้ว่าทั้งสองคนจะมีพลังทำลายล้าง แต่โอกาสที่จะจบด้วยน็อกไม่สูงนัก เพราะทั้งคู่มีความทนทานดี อย่างไรก็ตาม หากนาคาทานีโดนซับมิชชั่นหรือกราวด์แอนด์ปาวนด์บนพื้น อาจมีการหยุดการชกด้วย TKO ได้
การวิเคราะห์ราคามวยและคำแนะนำการเดิมพัน
จากการวิเคราะห์ทั้งหมด เราคาดว่าราคามวยน่าจะเป็นดังนี้:
ราคาเต็ง: – นาคาทานีชนะ: ราคาน้ำน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.75-1.85 – ซาปูตราชนะ: ราคาน้ำน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.95-2.10
ราคาพิเศษที่น่าสนใจ: – การชกจบครบ 3 ยก (Over 2.5 Rounds): มูลค่าการเดิมพันที่ดี เพราะทั้งสองคนมีความทนทาน – ซาปูตราชนะด้วยซับมิชชั่น: ถ้าคุณเชื่อว่าเขาจะพาเกมลงพื้นได้ นี่คือราคาที่ให้ผลตอบแทนดี – นาคาทานีชนะด้วยคะแนน: ราคาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 2.50-3.00 ซึ่งเป็นมูลค่าที่ดีถ้าคุณเชื่อในทักษะการชกยืนของเขา
คำแนะนำการเดิมพัน:
- เดิมพันหลัก: นาคาทานีชนะด้วยคะแนน – นี่คือทางเดินที่เราเห็นมากที่สุด เขามีอายุน้อยกว่า กระหายชัยชนะมากกว่า และมีทักษะการชกยืนที่ดีกว่า
- เดิมพันสำรอง: การชกจบครบ 3 ยก – ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าใครจะชนะ การเดิมพันแบบนี้ให้ความปลอดภัยกว่า เพราะทั้งสองคนมีประวัติการชกครบเวลา
- เดิมพันเสี่ยง: ซาปูตราชนะด้วยซับมิชชั่นในยก 2-3 – ถ้าคุณกล้าเสี่ยงและเชื่อว่าซาปูตราจะกลับมาฟอร์มได้ นี่คือราคาที่ให้ผลตอบแทนสูง
สิ่งที่ควรระวัง:
- อย่าเดิมพันเยอะเกินไปในคู่นี้ เพราะทั้งสองคนอยู่ในฟอร์มที่ไม่แน่นอน
- ติดตามข่าวสารล่าสุดก่อนการชก เช่น น้ำหนัก สภาพร่างกาย หรือข้อมูลจากการซ้อมล่าสุด
- พิจารณาเดิมพันแบบสดระหว่างการชก ถ้าคุณเห็นว่าเกมเป็นไปในทิศทางที่คาดการณ์ไว้
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการชกนัดนี้
ความสำคัญของการชกต่อดิวิชั่นฟลายเวท
รุ่นฟลายเวท MMA ของ ONE Championship เป็นหนึ่งในดิวิชั่นที่มีความสามารถแน่นที่สุด ปัจจุบันแชมป์โลกคือ ยูยะ วากามัตสึ ผู้ซึ่งเพิ่งชนะนาคาทานีไปเมื่อไม่นานมานี้ และมีนักสู้ชั้นนำอีกหลายคนที่กำลังรอโอกาส
การชกระหว่างนาคาทานีและซาปูตรานี้มีความสำคัญมากเพราะ:
- ผู้ชนะจะมีโอกาสติดอันดับท็อป 5 และได้สิทธิ์เผชิญหน้ากับนักสู้ที่แข็งแกร่งกว่าในอนาคต
- ผู้แพ้อาจตกออกจากการจัดอันดับ และต้องสร้างผลงานใหม่ตั้งแต่ต้น โดยเฉพาะซาปูตราที่หากแพ้จะเป็นการแพ้ 4 นัดติดต่อกัน
- การพิสูจน์ตัวเอง นาคาทานีต้องการแสดงให้เห็นว่าเขาควรอยู่ใน ONE ส่วนซาปูตราต้องการพิสูจน์ว่าเขายังมีระดับ
บรรยากาศและสถานที่จัดการแข่งขัน
การแข่งขันจะจัดขึ้นที่สนามมวยลุมพินี ในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในสนามมวยที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก บรรยากาศที่นี่เต็มไปด้วยพลังงานและความตื่นเต้น ซึ่งจะช่วยให้นักสู้ทั้งสองได้รับแรงบันดาลใจในการต่อสู้
การแข่งขันจะถ่ายทอดสดผ่าน Prime Video สำหรับผู้ชมในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา และผ่าน ONE Super App สำหรับผู้ชมในประเทศอื่นๆ รวมถึงประเทศไทย เวลาเริ่มการชกคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 19.00 น. (เวลาไทย)
นักสู้คู่อื่นๆ ในศึก ONE Fight Night 37
นอกจากคู่ระหว่างนาคาทานีและซาปูตราแล้ว ศึก ONE Fight Night 37 ยังมีคู่เด็ดอื่นๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะ:
คู่เอก: โรมัน คริเคลีอา vs ซาเมต อัจเดฟ – การชกชิงเข็มขัดแชมป์โลก ONE Heavyweight Kickboxing ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ – คริเคลีอาเป็นแชมป์ 2 รุ่นของ ONE และกำลังแสวงหาเข็มขัดที่ 3 – อัจเดฟเป็นนักชกชาวตุรกีที่ยังไม่เคยแพ้ มีสถิติ 17-0 พร้อม 12 น็อก
คู่รอง: นิโก คาร์ริโย vs ลุค เลสเซย์ – การชกมวยไทยรุ่นเฟเธอร์เวทที่น่าจับตามอง – คาร์ริโยเป็นนักชกชาวสก็อตแลนด์ผู้มีพลังหมัดสูง – เลสเซย์เป็นนักชกชาวอเมริกันที่มีทักษะหลากหลาย
การแข่งขันทั้งหมดคาดว่าจะเริ่มตั้งแต่ 19.00 น. และจะมีคู่มวยทั้งหมดประมาณ 10-12 คู่ ครอบคลุมทั้ง MMA, มวยไทย และคิกบ็อกซิ่ง
สรุปการวิเคราะห์และคำแนะนำสุดท้าย
การชกระหว่าง จิลเบิร์ต นาคาทานี vs เอโก โรนี ซาปูตรา ที่ ONE Fight Night 37 ในวันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2568 เป็นการชกที่สำคัญมากสำหรับทั้งสองฝ่าย นี่คือศึกแห่งความอยู่รอดในดิวิชั่นฟลายเวท ที่ผู้แพ้อาจต้องเผชิญกับอนาคตที่ไม่แน่นอนใน ONE Championship
จุดเด่นของนาคาทานี: – อายุน้อยกว่า (31 vs 34 ปี) – พลังหมัดและทักษะการชกยืนที่ดีกว่า – ความกระหายชัยชนะที่สูงมาก – สแตมินาและความทนทานดี
จุดเด่นของซาปูตรา: – ทักษะกราวด์เกมและซับมิชชั่นที่เหนือกว่าชัดเจน – ประสบการณ์ใน ONE Championship มากกว่า – พื้นฐานมวยปล้ำระดับซีเกมส์ – เคยมีฟอร์มระดับท็อปในอดีต
การวิเคราะห์สุดท้าย:
เราเชื่อว่า จิลเบิร์ต นาคาทานีมีโอกาสชนะเล็กน้อย ด้วยคะแนน โดยมีปัจจัยสนับสนุนดังนี้:
- อายุและสภาพร่างกาย: นาคาทานีอายุน้อยกว่าและไม่ได้รับบาดเจ็บจากการชกล่าสุดมากเท่าซาปูตรา
- ความกระหายชัยชนะ: แม้ทั้งสองจะต้องการชัยชนะ แต่นาคาทานีแสดงถึงความมุ่งมั่นและพลังในการฝึกซ้อมมากกว่า
- สไตล์การชก: การชกยืนมักจะได้เปรียบในการให้คะแนนของผู้ตัดสิน และนาคาทานีมีทักษะที่ดีกว่าในด้านนี้
- ฟอร์มล่าสุด: แม้จะแพ้ 2 นัด แต่นาคาทานีชกได้ดีและแพ้ด้วยคะแนนเท่านั้น ไม่ได้ถูกน็อกหรือซับมิชชั่น
อย่างไรก็ตาม ระวังซาปูตราที่อาจสร้างเซอร์ไพรส์ หากเขาสามารถพาเกมลงพื้นได้ในยกต้นๆ และหาซับมิชชั่น การชกอาจจบได้อย่างรวดเร็ว นี่คือจุดที่เราต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด
คำแนะนำการเดิมพัน: – เดิมพันหลัก: นาคาทานีชนะด้วยคะแนนเอกฉันท์ (ความมั่นใจ 60%) – เดิมพันรอง: การชกจบครบ 3 ยก (ความมั่นใจ 70%) – เดิมพันเสี่ยง: ซาปูตราชนะด้วยซับมิชชั่นในยก 2 (ความมั่นใจ 30%)
พี่น้องคอมวยทุกคน อย่าลืมติดตามการชกสดในคืนวันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2568 นี้ และหากคุณสนใจจะเดิมพัน ลงทะเบียนที่นี่ เพื่อรับโปรโมชั่นพิเศษและราคามวยที่ดีที่สุด! ขอให้ทุกคนโชคดีและเดิมพันอย่างมีสติครับ!
เกี่ยวกับการแทงมวยออนไลน์กับเรา
หากคุณกำลังมองหาเว็บไทยแทงมวยออนไลน์ที่น่าเชื่อถือและให้บริการครบวงจร UFABET คือตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
ทำไมต้องเลือกเรา?
- ราคามวยดีที่สุด: เรามีราคาน้ำที่แข่งขันได้และเป็นธรรม
- มวยครบทุกศึก: ครอบคลุมทุกรายการ ทั้ง ONE Championship, UFC, มวยไทย, และอื่นๆ
- ฝาก-ถอนออโต้: ระบบรวดเร็ว ปลอดภัย ใช้เวลาไม่เกิน 30 วินาที
- บริการตลอด 24 ชั่วโมง: ทีมงานพร้อมให้บริการและช่วยเหลือคุณตลอดเวลา
- โปรโมชั่นพิเศษ: โบนัสต้อนรับ คืนยอดเสีย และโปรโมชั่นอื่นๆ มากมาย
ขั้นตอนการสมัครสมาชิก
- คลิกลิงก์สมัคร: กดที่ ลงทะเบียนที่นี่
- กรอกข้อมูล: กรอกข้อมูลส่วนตัว ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ บัญชีธนาคาร
- ยืนยันตัวตน: ทำตามขั้นตอนการยืนยันตัวตนอย่างง่ายดาย
- ฝากเงิน: ฝากเงินขั้นต่ำเพียง 100 บาทผ่านระบบออโต้
- เริ่มแทงมวย: เลือกคู่มวยที่คุณสนใจและเริ่มเดิมพันได้ทันที!
อย่ารอช้า! สมัครสมาชิกวันนี้ และเริ่มต้นประสบการณ์การแทงมวยออนไลน์ที่ดีที่สุดกับเรา พร้อมรับโบนัสต้อนรับสูงสุด 100% สำหรับสมาชิกใหม่!
อย่าลืม! ติดตามคู่เด็ดนัดนี้ จิลเบิร์ต นาคาทานี vs เอโก โรนี ซาปูตรา ในวันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2568 ที่ ONE Fight Night 37 และอย่าลืมแทงมวยกับเราเพื่อรับราคาที่ดีที่สุด!
เดิมพันอย่างมีสติ พิจารณาก่อนลงทุน และขอให้โชคดีครับ!