หากพูดถึง นักมวยไทยในอดีต ที่ยังคงเป็นตำนานมาจนถึงปัจจุบัน ชื่อของ อภิเดช ศิษย์หิรัญ หรือที่แฟนมวยรู้จักกันในฉายา “จอมเตะแห่งบางนกแขวก” ย่อมอยู่ในอันดับต้น ๆ ของใจแฟนมวยทั่วประเทศ เขาคือหนึ่งใน นักมวยชื่อดัง ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ ด้วยสไตล์การเตะที่รวดเร็ว รุนแรง และแม่นยำ จนคู่ต่อสู้หลายคนต้องยกนิ้วให้ในฝีเท้า ในวันนี้ทางเว็บ มวยพักยก UFABET จะพาไปรู้จักกับยอดตำนานนักมวยชาวไทยกันให้มากยิ่งขึ้น
ประวัติและเส้นทางบนสังเวียนของ อภิเดช ศิษย์หิรัญ

อภิเดช ศิษย์หิรัญ หรือชื่อจริงว่า ณรงค์ ทรงมณี เกิดเมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2484 ที่ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม ครอบครัวของเขาประกอบอาชีพทำสวนมะพร้าวแบบพื้นบ้าน และเติบโตมาในวิถีชีวิตชนบท ตั้งแต่วัยเยาว์เขาเป็นเด็กที่มีความกระตือรือร้น รักการเล่นกีฬาแทบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอล ตะกร้อ หรือกรีฑา จนกลายเป็นนักกีฬาคนเก่งประจำโรงเรียน
ในช่วงมัธยมศึกษา เขาได้พบกับ ครูสุพร วงศาโรจน์ ครูพละผู้มีความชำนาญด้านศิลปะการต่อสู้ ซึ่งเป็นผู้ค้นพบพรสวรรค์ที่ซ่อนอยู่ในตัวของอภิเดช ครูสุพรจึงเริ่มสอนวิชา กระบี่กระบอง พลอง และแม่ไม้มวยไทย ให้กับเขา ซึ่งกลายเป็นรากฐานสำคัญของเส้นทางอาชีพนักมวยในเวลาต่อมา เขาสามารถพัฒนาเทคนิคได้อย่างรวดเร็ว และเริ่มมีชื่อเสียงจากการขึ้นชก ในงานวัดต่าง ๆ ภายในจังหวัดราชบุรี และสมุทรสงคราม
การชกมวยครั้งแรกของเขาเกิดขึ้น ในเวทีงานวัดที่อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี ซึ่งเขาสามารถคว้าชัยชนะ ได้ตั้งแต่ไฟต์เปิดตัว พร้อมรับค่าตัวเพียง 30 บาท ซึ่งถือว่าเป็นเงินจำนวนไม่น้อยในยุคนั้น จากนั้นชื่อของ อภิเดช ก็เริ่มเป็นที่รู้จักในวงการมวยภูธร เขาขึ้นชกอย่างต่อเนื่องในงานวัด งานประจำปี และเวทีชั่วคราวทั่วภาคกลาง
โอกาสสำคัญในชีวิต ถูกชักชวนไปชกมวยใน กรุงเทพฯ
ต่อมา เขาได้รับโอกาสสำคัญในชีวิต เมื่อ นายเกษม เอี่ยมภิญโญ โปรโมเตอร์มวยชื่อดังในกรุงเทพฯ เห็นแวว และชักชวน ให้เข้ามาชกในเมืองหลวง ภายใต้ชื่อ “อภิเดช ลูกพรชัย” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางการเป็น นักมวยไทยอาชีพ ที่แท้จริง บนเวทีกรุงเทพฯ เขาแสดงให้เห็นถึงความสามารถอันโดดเด่น โดยเฉพาะการเตะที่รวดเร็วและทรงพลัง ทำให้กลายเป็นขวัญใจแฟนมวยในยุคนั้นอย่างรวดเร็ว

ต่อมา เมื่อครูสุพรพาเขาไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของ ครูเกษม และคุณองุ่น เอี่ยมภิญโญ แห่งค่าย “ศิษย์หิรัญ” เขาจึงเปลี่ยนชื่อเป็น “อภิเดชศิษย์หิรัญ” ซึ่งเป็นชื่อที่สร้างตำนานในเวลาต่อมา ช่วงปี พ.ศ. 2502–2506 ถือเป็นยุคทองของเขาอย่างแท้จริง อภิเดชสามารถครองแชมป์ มวยไทยรุ่นเวลเตอร์เวท ทั้ง เวทีลุมพินี และ ราชดำเนิน ได้พร้อมกัน ซึ่งถือว่าเป็นเกียรติสูงสุดของนักมวยไทยในสมัยนั้น
นอกจากจะเป็นแชมป์แล้ว เขายังสร้างศึกคลาสสิกหลายไฟต์ที่ถูกกล่าวถึงจนถึงทุกวันนี้ โดยเฉพาะการพบกับ เดชฤทธิ์ อิทธิอนุชิต ที่ขึ้นชกกันมากถึง 12 ครั้งในระยะเวลา 7 ปี ระหว่าง พ.ศ. 2506–2513 ถือเป็น “คู่รักคู่แค้น” แห่งวงการมวยไทยยุคนั้น และเกือบทุกครั้งที่ทั้งคู่ขึ้นเวที เสียงเชียร์จากแฟนมวยก็จะดังกระหึ่มทั่วสนาม
ความสำเร็จในเวทีนานาชาติ และก้าวสู่เวทีมวยสากล
ความโดดเด่นของอภิเดชไม่ได้มีเพียงในประเทศเท่านั้น เขายังได้ก้าวสู่เวทีมวยสากลอาชีพ โดยคว้าแชมป์ OPBF รุ่นเวลเตอร์เวท และขึ้นชกกับนักมวยต่างชาติหลายราย เช่น เอลิลิโอ อรันดา และคูโบ อูร่า ซึ่งทำให้ชื่อของเขาเริ่มเป็นที่รู้จักในระดับเอเชีย และได้รับการจัดอันดับเป็นรองแชมป์โลกอันดับ 10 ของสมาคมมวยโลก (WBA)
แม้ในภายหลังเขาจะประสบช่วงเวลาตกต่ำบ้างจากการพ่ายแพ้และปัญหาสุขภาพ แต่ไม่มีใครปฏิเสธได้เลยว่า “อภิเดชศิษย์หิรัญ” คือหนึ่งใน นักมวยไทยในอดีต ที่สร้างคุณูปการให้กับวงการมวยไทยอย่างแท้จริง ด้วยฝีมืออันเฉียบคม จิตวิญญาณนักสู้ และความเป็นสุภาพบุรุษแห่งสังเวียน ติดตามประวัตินักมวยคนอื่นได้ที่ วิเคราะห์มวยวันนี้ ได้ที่นี่เลย
เกียรติประวัติ และรางวัลของอภิเดช ศิษย์หิรัญ
- แชมป์มวยไทยรุ่นเวลเตอร์เวท ทั้งเวทีลุมพินีและราชดำเนิน
- แชมป์ประเทศไทยรุ่นเวลเตอร์เวท
- แชมป์ OPBF รุ่นเวลเตอร์เวท (สหพันธ์มวยภาคตะวันออกไกลและแปซิฟิก)
- รางวัลฮอลออฟเฟม สยามกีฬาอวอร์ดส์ ปี 2008
- รางวัลบุคคลทรงคุณค่ากีฬามวย จากการกีฬาแห่งประเทศไทย
ในบั้นปลายชีวิต เขายังอุทิศตนให้กับวงการมวยไทยในฐานะ เทรนเนอร์ของค่ายแฟร์เท็กซ์ และ นายกชมรมนักมวยไทยเก่า คอยช่วยเหลือเพื่อนนักมวยที่ยากลำบาก ถือเป็นตัวอย่างของ นักมวยไทยในอดีต บน เว็บยูฟ่า ที่ไม่เพียงมีฝีมือ แต่ยังมีน้ำใจและความเสียสละอย่างแท้จริง
สรุป อภิเดช ศิษย์หิรัญ ที่นักมวยไทยรุ่นใหม่ควรจับตามอง
แม้วันนี้ อภิเดช ศิษย์หิรัญจะจากไปแล้ว แต่ตำนานของ “จอมเตะแห่งบางนกแขวก” ยังคงถูกกล่าวถึงในวงการมวยไทยเสมอ เขาคือแรงบันดาลใจให้กับนักมวยรุ่นใหม่ที่ต้องการก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดด้วยความมุ่งมั่นและวินัย เขาไม่เพียงเป็น นักมวยชื่อดัง เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ของ ศิลปะแม่ไม้มวยไทย ที่จะอยู่คู่แผ่นดินไทยไปตลอดกาล สนใจเข้าร่วมสนุกรับชม โปรแกรมมวย ได้ที่ ทางเข้า UFABET เว็บตรง ไม่ผ่านเอเย่นต์