เสียงเชียร์กึกก้องสะท้านทั่วประเทศ… ภาพนักมวยไทยหน้าใสผอมบางที่ชื่อ ‘สมรักษ์ คำสิงห์’ ยกหมัดชูฟ้าเหนือเวทีโอลิมปิก 1996 ยังคงเป็นภาพที่ฝังใจคนไทยมาจนถึงทุกวันนี้ ชัยชนะในครั้งนั้นไม่เพียงแต่สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการกีฬาไทย แต่ยังจุดประกายความหวังและความภาคภูมิใจให้กับคนทั้งชาติ สมรักษ์ คำสิงห์ ไม่ได้เป็นเพียงนักมวย แต่เขายังเป็นฮีโร่ในดวงใจของคนไทยทุกคน
เส้นทางสู่ความสำเร็จของเขานั้นเต็มไปด้วยอุปสรรคและความท้าทาย แต่ด้วยความมุ่งมั่นและความพยายามอย่างไม่หยุดยั้ง สมรักษ์ก็สามารถพิชิตความฝันและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติได้สำเร็จ สำหรับใครที่ไม่รู้จักหรือเกิดไม่ทันชายคนนี้ วันนี้ทางเว็บไซต์ มวยพักยก จะพาทุกท่านมาเจาะลึกชีวิตของสมรักษ์ คำสิงห์ ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน พร้อมเรื่องราวเบื้องหลังความสำเร็จ
ทำความรู้จัก สมรักษ์ คำสิงห์ นักมวยไทยผู้สร้างประวัติศาสตร์
สมรักษ์ คำสิงห์ เป็นชาวหมู่บ้านโนนสมบูรณ์ อำเภอบ้านแฮด จังหวัดขอนแก่น เกิดเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2516 ในครอบครัวที่ยากจน เป็นบุตรคนกลาง ในจำนวนลูกทั้งหมด 3 คน มีชื่อเล่นว่า “บาส” เหตุที่มีชื่อเล่นนี้ก็เพราะว่าต้องการให้คล้องกับชื่อเล่นของพี่ชายซึ่งเป็นนักมวยด้วยเหมือนกัน คือ สมรถ คำสิงห์ ที่มีชื่อว่า “รถ” เนื่องจากคลอดบนรถบัส ระหว่างเดินทางไปสถานีอนามัยอำเภอ
จุดเริ่มต้นบนเส้นทางมวยไทย
สมรักษ์ เติบโตมาท่ามกลางบรรยากาศของวงการมวย ด้วยมีพ่อเป็นนักมวยเก่า เขาจึงซึมซับความรักในกีฬามวยมาตั้งแต่ยังเด็ก และเริ่มต้นฝึกฝนตั้งแต่อายุเพียง 7 ขวบ โดยเริ่มจากการขึ้นชกตามงานวัดต่าง ๆ ความสามารถและความมุ่งมั่นของสมรักษ์เป็นที่จับตาของ ณรงค์ กองณรงค์ ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะมวยชื่อดังในขณะนั้น จึงได้ชักชวนให้สมรักษ์เข้ามาฝึกซ้อมในค่าย และขึ้นชกในนามของค่าย ณรงค์ยิม ทำให้สมรักษ์เป็นที่รู้จักในแถบจังหวัดขอนแก่น
ต่อมา สมรักษ์ได้ย้ายเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ และเข้าเรียนที่โรงเรียนผดุงศิษย์พิทยา พร้อมกับฝึกซ้อมมวยทั้งมวยไทยและมวยสากลสมัครเล่นไปด้วย สมรักษ์ขึ้นชกมวยไทยในชื่อ “พิมพ์อรัญเล็ก ศิษย์อรัญ” หรือมีอีกชื่อว่า “สมรักษ์ ส.เทพสุทิน” แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลก เมื่อพ่อของเขาเสียชีวิตลง ทำให้สมรักษ์ต้องเผชิญหน้ากับความสูญเสียครั้งใหญ่
สมรักษ์ได้ฝึกฝนและขึ้นชกมวยไทยอย่างจริงจัง โดยมีโอกาสได้ขึ้นชกกับนักมวยชื่อดังหลายคน เช่น ชาติชายน้อย ชาวไร่อ้อย, ช้างน้อย ศรีมงคล, บัวขาว ป.พิสิษฐ์เชษฐ์, ฉมวกเพชร ช่อชะมวง ทั้งในเวทีราชดำเนินและเวทีลุมพินี แต่ไม่เคยได้แชมป์มวยไทยของเวทีใด แม้จะไม่เคยได้แชมป์มวยไทย แต่ประสบการณ์ที่ได้จากการชกเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาฝีมือของเขา
จุดเริ่มต้นบนเส้นทางนักมวยสากลสมัครเล่น
สมรักษ์ เริ่มต้นเส้นทางบนสังเวียนมวยสากลสมัครเล่นตั้งแต่อายุเพียง 12 ปี ด้วยการเข้าร่วมการแข่งขันในนามโรงเรียน ความสามารถและพรสวรรค์ของเขาโดดเด่นขึ้นเรื่อย ๆ จนเมื่อจบการศึกษา ม.6 เขาได้รับโอกาสอันยิ่งใหญ่จากกองทัพเรือ ที่เชิญชวนให้เข้าร่วมเป็นนักกวยสากลสมัครเล่นในนามของสโมสร และพร้อมจะบรรจุเข้ารับราชการในกองทัพเรือด้วย
ไม่นานหลังจากนั้น สมรักษ์ก็ได้เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่บาร์เซโลน่า แม้จะตกรอบในครั้งนั้น แต่เขาก็ไม่เคยย่อท้อ ต่อมาในปี 2536 เขาคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันมวยทหารโลก และในปี 2537 ก็สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้าเหรียญทองในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ที่ฮิโรชิม่า ซึ่งเป็นเหรียญทองแรกของนักกีฬาไทยในรายการนี้
เส้นทางสู่ตำนาน คว้าเหรียญทองโอลิมปิก 1996
ปี 1996 (พ.ศ. 2539) เป็นปีที่สมรักษ์สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อเขาสามารถคว้าเหรียญทองโอลิมปิกมาครองได้สำเร็จ ชัยชนะในครั้งนี้สร้างความปลาบปลื้มให้กับคนไทยทั้งประเทศ และทำให้สมรักษ์กลายเป็นฮีโร่ในดวงใจของคนไทยทุกคน หลังจากคว้าเหรียญทองโอลิมปิก สมรักษ์ได้รับการยกย่องอย่างสูงจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เขาได้รับการเลื่อนยศเป็นเรือตรี และมีการออกแสตมป์เพื่อเป็นเกียรติแก่ความสำเร็จของเขา นอกจากนี้ ชื่อของสมรักษ์ยังถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของวงการกีฬาไทยตลอดไป
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้สมรักษ์ประสบความสำเร็จ นอกจากพรสวรรค์และความมุ่งมั่นแล้ว การฝึกซ้อมอย่างหนัก การสนับสนุนจากครอบครัวและทีมงาน รวมถึงจิตใจที่แข็งแกร่งก็มีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง การคว้าเหรียญทองโอลิมปิกของสมรักษ์ไม่เพียงแต่สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเขาเอง แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นหลัง หลายคนหันมาสนใจกีฬามวยสากลสมัครเล่นมากขึ้น และใฝ่ฝันที่จะเป็นนักกีฬาโอลิมปิกเช่นเขา
จากยอดมวยสู่เส้นทางใหม่ เรื่องราวชีวิตของ สมรักษ์ คำสิงห์ หลังแขวนนวม
หลังจากสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติด้วยการคว้าเหรียญทองโอลิมปิก สมรักษ์ ก็ได้ก้าวเข้าสู่บทบาทใหม่ในชีวิต นอกเหนือจากการเป็นนักกีฬาที่เป็นที่รู้จักทั่วประเทศแล้ว เขายังได้ขยายขอบเขตของตัวเองไปสู่วงการบันเทิงและการเมือง
ชีวิตในวงการบันเทิง
ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและบุคลิกที่เป็นมิตร สมรักษ์ได้รับโอกาสเข้าสู่วงการบันเทิงอย่างเต็มตัว เขาได้แสดงภาพยนตร์หลายเรื่อง ทั้งบทบาทที่ใกล้เคียงกับชีวิตจริงและบทบาทที่ท้าทายความสามารถทางการแสดง นอกจากนี้ เขายังมีผลงานเพลงเป็นของตัวเอง และเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้ามากมาย ทำให้เขากลายเป็นที่รู้จักของคนในวงกว้างมากยิ่งขึ้น
ชีวิตทางการเมือง
ความเป็นที่นิยมของสมรักษ์ทำให้เขาตัดสินใจเข้าสู่วงการการเมือง ด้วยความตั้งใจที่จะใช้ชื่อเสียงและประสบการณ์ที่มีอยู่เพื่อรับใช้สังคม เขาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งครั้งแรก อย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยย่อท้อและยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ
ชีวิตส่วนตัว และ ชีวิตครอบครัว
สมรักษ์สมรสกับนางเสาวนีย์ คำสิงห์ ที่รู้จักกันมาตั้งแต่ทั้งคู่ยังเรียนหนังสืออยู่ที่ขอนแก่น มีบุตรด้วยกัน 2 คน
- คนโตเป็นหญิง ชื่อ “เบสท์ รักษ์วนีย์ คำสิงห์” เกิดเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2543 (24 ปี)
- คนเล็กเป็นชาย ชื่อ “โบ๊ท ภูวรักษ์ คำสิงห์” เกิดเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2550 (17 ปี)
ต่อมาในเดือนธันวาคมปี พ.ศ. 2566 สมรักษ์ได้ให้สัมภาษณ์ว่าเขาได้จดทะเบียนหย่าร้างกับอดีตภรรยาแล้ว
แรงบันดาลใจและบทเรียนจากชีวิตของสมรักษ์
เรื่องราวชีวิตของสมรักษ์สอนให้เราเรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความมุ่งมั่น ความอดทน ความสามารถในการปรับตัว และความสำคัญของการไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค เขาเป็นตัวอย่างของคนที่สามารถประสบความสำเร็จได้แม้จะต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย
สมรักษ์ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตำนานนักมวย แต่เขายังเป็นบุคคลสาธารณะที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นหลัง เรื่องราวชีวิตของเขาเป็นบทพิสูจน์ว่าความสำเร็จไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ด้านเดียว และเราทุกคนสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ได้ตลอดเวลา นอกจาก สมรักษ์ ทางเรามีข้อมูลนักมวยชื่อดังอีกมากมายให้ทุกท่านได้รู้จัก ท่านใดที่สนใจสามารถติดตามได้ที่ เว็บยูฟ่า เว็บมวยออนไลน์ที่ดีที่สุด ครบจบในที่เดียว
ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับวงการมวย ติดตามได้ที่ มวยพักยก Pakyok ครบจบที่เดียว
มวยพักยก Pakyok เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมข่าวสารวงการมวยครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นข่าวการแข่งขัน ผลการชก บทวิเคราะห์คู่มวย รวมไปถึงโปรไฟล์นักมวยชื่อดัง ทำให้แฟนหมัดมวยได้อัปเดตข่าวสารได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบายตลอด 24 ชั่วโมง หรือหากท่านใดที่ต้องการแทงมวยออนไลน์ มวยพักยก ก็สามารถตอบโจทย์ทุกท่านได้เป็นอย่างดี เปิดให้บริการแทงมวยออนไลน์เริ่มต้นเพียง 10 บาท มีให้เลือกเดิมพันทุกรายการแข่งขัน อีกทั้งยังสามารถรับชมมวยแบบสด ๆ ฟรีอีกด้วย สนใจสามารถ สมัคร UFABET ได้เลย สมัครง่าย สมัครได้ตลอด 24 ชั่วโมง